กลุ่มที่ 1: หุ้นตัวนี้ "ถูก" หรือ "แพง"?
อัตราส่วนกลุ่มนี้จะช่วยประเมินว่าราคาหุ้นในปัจจุบันสมเหตุสมผลหรือไม่เมื่อเทียบกับพื้นฐานของบริษัท
P/E Ratio (Price-to-Earnings Ratio)
มันคืออะไร?: อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น
มันสื่ออะไร?: บอกว่าเรายอมจ่ายเงินกี่บาท เพื่อให้ได้กำไรจากหุ้นนั้น 1 บาทต่อปี หรือใช้เวลากี่ปีถึงจะคืนทุน
หลักการดูง่ายๆ: ยิ่งน้อยยิ่งดี หมายถึงหุ้นอาจมีราคาถูกเมื่อเทียบกับกำไร
ลองปรับค่าแล้วดูผลลัพธ์!
หุ้น A
10.0 เท่า
หุ้น B
15.0 เท่า
P/BV Ratio
บอกว่าเราจ่ายเงินเป็นกี่เท่าของ "มูลค่าตามบัญชี" ของบริษัท ยิ่งน้อย (โดยเฉพาะต่ำกว่า 1) ยิ่งดี
Dividend Yield
บอกผลตอบแทนจาก "เงินปันผล" ที่เราจะได้รับเทียบกับราคาหุ้น ยิ่งสูงยิ่งดี สำหรับนักลงทุนเน้นปันผล
EV/EBITDA
ใช้วัดความถูกแพงโดยมองที่ "มูลค่ากิจการที่แท้จริง" เทียบกับกระแสเงินสด ยิ่งน้อยยิ่งดี
กลุ่มที่ 2: บริษัทนี้ "เก่ง" แค่ไหน?
อัตราส่วนกลุ่มนี้จะบอกว่าบริษัทมีความสามารถในการสร้างกำไรจากเงินทุนและสินทรัพย์ได้ดีเพียงใด
ROE (Return on Equity)
มันคืออะไร?: อัตราส่วนกำไรสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (เงินทุนของเจ้าของ)
มันสื่ออะไร?: บอกว่า "เงินทุนของเจ้าของ" 100 บาท สามารถสร้างกำไรกลับมาได้กี่บาท เป็นตัวชี้วัดความเก่งของผู้บริหาร
หลักการดูง่ายๆ: ยิ่งสูงยิ่งดี และควรสูงอย่างสม่ำเสมอ (โดยทั่วไป >15% ถือว่าน่าสนใจ)
ลองปรับกำไรแล้วดูผลลัพธ์!
ROE
15.0%
กำไร
สมมติให้ส่วนของผู้ถือหุ้นคงที่ 100 ล้านบาท
กลุ่มที่ 3: บริษัท "มั่นคง" หรือไม่?
ประเมินความเสี่ยงด้านหนี้สินและสภาพคล่องของบริษัท
Current Ratio & Quick Ratio
ใช้วัดสภาพคล่องระยะสั้น บอกว่าบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนพอจ่ายหนี้ระยะสั้นหรือไม่ ยิ่งสูง (โดยเฉพาะ >1) ยิ่งดี
Quick Ratio จะเข้มงวดกว่า โดยการหักสินค้าคงคลัง (Inventories) ที่อาจขายเป็นเงินสดได้ช้าออกไปก่อน
เปรียบเทียบความแตกต่าง
Current Ratio
2.0 เท่า
กลุ่มที่ 4: บริษัทมี "เงินสด" จริงหรือเปล่า?
ตรวจสอบคุณภาพของกำไรและสุขภาพทางการเงินที่แท้จริงของบริษัท
Free Cash Flow (FCF)
บอกถึง "เงินสดจริงๆ" ที่เหลือในมือบริษัทหลังหักค่าใช้จ่ายลงทุนแล้ว ควรเป็นบวกและเติบโต
Cash Conversion Ratio (CCR)
ใช้วัด "คุณภาพของกำไร" ว่ากำไรในบัญชีเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ดีแค่ไหน ควรใกล้เคียงหรือ > 1 เท่า
บทสรุป: พลังของการมองภาพรวม
ไม่มีอัตราส่วนใดที่ดีที่สุดเพียงตัวเดียว หัวใจสำคัญคือการนำอัตราส่วนจากกลุ่มต่างๆ มาพิจารณาร่วมกัน ซึ่งเครื่องมือ Radar Chart ของ SETVIZ ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยคุณในเรื่องนี้ ลองคลิกเลือก "สไตล์นักลงทุน" ด้านล่างเพื่อดูว่าหุ้นในอุดมคติของแต่ละสายควรมีหน้าตาเป็นอย่างไร